วัดป่านาคนิมิตต์
วัดแห่งนี้หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ได้รุกขมูลผ่านมาก่อน ต่อมาหลวงปู่มั่น ได้รุกขมูลมาตามเส้นทางของหลวงปู่เสาร์และแวะพักที่นี่ หลวงปู่มั่นเห็นว่าสถานที่นี้สัปปายะ ท่านจึงปรารภกับญาติโยมว่า "คิดจะสร้างเป็นวัด" จึงได้มีการยกที่ดินถวายท่าน และสร้างเสนาสนะแบบชั่วคราวพอได้อยู่อาศัย แล้วท่านจึงเดินธุดงค์ต่อไปทางภาคเหนือ ๑๒ ปี หลังจากนั้นท่านจึงมาจำพรรษาที่นี่เป็นครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ.๒๔๘๖ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในครั้งนี้ชาวบ้านนามนได้สร้างกุฏิถวายองค์ท่าน รุ่งเช้าของวันที่ได้เริ่มต้นก่อสร้างปรากฏ หลวงปู่มั่นได้ชี้บอกโยมว่า "นั่นแหละ พญานาคทำรอยไว้ให้แล้ว" ชาวบ้านไปดูเป็นรอยกลมๆ จึงนำรอยนั้นเป็นหมายในการขุดหลุมตั้งเสากุฏิ ต่อมาเมื่อจะสร้างศาลาก็ปรากฏรอยนี้อีกจึงได้ลงเสาศาลาในลอยนั้นเช่นกัน ท่านจึงพูดกับโยมว่า "วัดนี้ชื่อว่าวัดป่านาคนิมิตต์" แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดป่าบ้านนามนตามชื่อหมู่บ้านนั้น ต่อมาเมื่อได้จดทะเบียนชื่อวัด จึงได้ใช้มงคลนามที่หลวงปู่มอบให้นี้เป็นชื่อวัด
วัดป่านาคนิมิตต์ในปัจจุบันมีพระอาจารย์อว้าน เขมโกเป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันยังมีเสนาสนะเก่าแก่ที่ยังอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ได้แก่ กุฏิหลวงปู่มั่นที่ยังอยู่ในสภาพดี และกุฏิพระอาจารย์วิริยังค์ที่ท่านใช้จำพรรษาและบันทึกธรรมะ "มุตโตทัย" ที่อยู่ลึกเข้าไปก็อยู่ในสภาพดีเช่นกัน สภาพวัดทั่วไปยังคงความสงบร่มเย็นเป็นสัปปายะสถานที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่มั่น ที่ยังรักษาสภาพแวดล้อมและข้อวัตรปฏิบัติได้เป็นอย่างเข้มแข็ง
หลวงปู่มั่นได้เลือกจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านนามน (วัดป่านาคนิมิตต์ ) เพราะพระอาจารย์ทั้งหลายที่เป็นศิษย์ได้มานมัสการฟังธรรมมากขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย เป็นปีที่ท่านกลั่นกรองความเพียรของคณะศิษย์ โดยอุบายวิธีต่าง ๆ ทั้งเทศน์อบรม ทั้งใช้อุบายขู่เข็ญไม่ให้นอนใจในการทำความเพียร พร้อมทั้งให้อุบายในธรรมปฏิบัติด้วย บนกุฏิหลวงปู่มั่น เป็นที่ตั้งรูปเหมือนของท่านขนาดเท่าจริง กุฏิหลังนี้นอกจากเป็นกุฏิสงฆ์แล้ว ยังเป็นเหมือนศาลาแสดงธรรมของหลวงปู่มั่น ที่ชื่อว่า "มุตโตทัย" ในปี 2485
สถานที่สำคัญในวัดมี
1.กุฏิหลวงปู่มั่น เป็นกุฏิหลังเล็กซึ่งเป็นกุฏิที่หลวงปู่มั่นเคยจำพรรษา บำเพ็ญภาวนา สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
2.เส้นทางที่ท่านเดินจงกลม
3.โบสถ์วัดนาคนิมิตต์สร้างเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างใช้เป็นศาลา ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปเหมือนหลวงปู่เสาร์และหลวงปูมั่น
|
|
![]() |